โอปปาติก เกิดอมตะ Opapatika [HD]
ผู้แสดงนำ:
สมชาย เข็มกลัด... จิรัสย์
ชาคริต แย้มนาม... ไปศล
ผู้แสดงสมทบ:
เร แมคโดนัลด์... อรุษ
อธิป นานา... รามิล
เข็มอัปสร สิริสุขขะ... ปราณ
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง... ธุวชิต
ผู้กำกับ:
ธนกร พงษ์สุวรรณ
ผู้สร้าง:
สหมงคลฟิล์ม
โอปปาติก เกิดอมตะ (2007) Opapatika โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) เล่าถึงเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่างที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่น ๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อย ๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด
ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเชื่อของตนเอง ว่าจะสามารถเอาชนะความตายได้ด้วยการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียวที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกอีกตนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างลึกลับ และดูอันตรายเกินไปที่ศดกจะวางใจให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ทางเดียวที่ศดกจะสามารถเป็นอมตะได้ก็คือ ต้องกำจัดจิรัสย์ออกไป
...ศดกจึงวางแผนการโดยให้ลูกน้องสุดจงรักภักดีนาม ธุวชิต (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ออกตามหา เตชิต (ลีโอ พุฒ) นักสืบเอกชนคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นมีพลังพิเศษของโอปปาติกแอบซ่อน อยู่
...ศดกได้ล่อหลอกให้เตชิตกลายเป็นโอปปาติกด้วยการฆ่าตัวตาย และได้ว่าจ้างให้เตชิตใช้พลังพิเศษของเขาออกตามหาโอปปาติกตนอื่น ๆ เพื่อร่วมมือกันหาทางกำจัดตัวอันตรายอย่างจิรัสย์ที่ตอนนี้กำลังตามล่าหญิง สาวลึกลับนางหนึ่งอยู่
...เตชิตตกลงช่วยเหลือศดก และได้รู้จักกับ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับคนที่จิรัสย์ต้องการจะฆ่า และหลงรักปราณทันทีที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก ซึ่งตัวปราณนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โอปปาติกตนอื่น ๆ มารวมกันได้
...ไปศล (ชาคริต แย้มนาม) โอปปาติกนักฆ่าที่ไม่เคยผูกพันยึดติดกับใคร นอกจากอดีตของตัวเอง และด้วยความรู้สึกผูกพันบางอย่างของไปศลที่มีต่อปราณ ทำให้เขาแอบตามดูแลปราณอยู่ห่าง ๆ
อรุษ (เร แม็คโดแนลด์) กับ รามิล (อธิป นานา) สองโอปปาติกเพื่อนแท้ชนิดตายแทนกันได้ เมื่อใดที่อยู่รวมกันจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าแยกกันจะอ่อนแอ เพราะต่างคนต่างก็มีพลังที่จะช่วยอุดจุดอ่อนของกันและกันได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เข้าถึงตัวได้ยาก เพราะไม่เคยไว้ใจใคร จนกระทั่งทั้งคู่ได้มาสานสัมพันธ์กับปราณ
...แม้ดูเหมือนว่า เหล่าโอปปาติกทั้งหมดจะถูกดึงดูดมารวมกันโดยมีปราณเป็นจุดเชื่อมโยง แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายไปเสียทั้งหมด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีแง่มุมที่ไม่ลงรอยกันอยู่ ประกอบกับเรื่องราวที่ดูคลุมเครือระหว่างศดกกับจิรัสย์ นั่นได้นำไปสู่การปะทะกันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และนำมาซึ่งความสูญเสีย พร้อม ๆ กับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของชีวิต
โอปปาติกะเป็นคนบาลี ในพุทธศาสตร์หมายถึงสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาแล้วโตเต็มที่ทันทีทันใด ไม่ต้องผ่านการวิวัฒนาการเหมือนสัตว์ทั่วไป เรียกรวมพวกเทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โดยมีอำนาจของกรรมเป็นตัวสนับสนุน ด้วยความน่าสนใจของคำๆนี้ ผู้กำกับนำมาตีความใหม่ จนกลายมาเป็นภาพยนตร์ และเป็นการพบกันครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ของ 8 ซุปเปอร์สตาร์ ระดับแถวหน้าของเมืองไทยสู่ปรากฎการณ์ความยิ่งใหญ่ของที่สุดแห่งภาพยนตร์ไทย แอ็คชั่นเหนือจินตนาการ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อมนุษย์หาญกล้าคิดท้าทายขอบเขตแห่งอำนาจของ "โอปปาติกะ" เหล่าสิ่งมีชีวิตผู้มีพลังอำนาจพิเศษเหนือกกว่ามนุษย์ทั่วไป ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นหลังประตูแห่งความตายถูกเปิดขึ้นไม่มีใครล่วงรู้ว่าจุด จบแห่งมหาสงครามการนองเลือดเพื่อล้างเผ่าพันธุ์พิเศษที่สืบทอดกันมานานนับ ศตวรรษจะจบลงที่ใด แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกนี้หรือโลกหน้านี่คืออุบัติแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่วินาทีแรกแห่งการล่า "โอปปาติกะ"ของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น!!!
ผู้แสดงนำ:
สมชาย เข็มกลัด... จิรัสย์
ชาคริต แย้มนาม... ไปศล
ผู้แสดงสมทบ:
เร แมคโดนัลด์... อรุษ
อธิป นานา... รามิล
เข็มอัปสร สิริสุขขะ... ปราณ
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง... ธุวชิต
ผู้กำกับ:
ธนกร พงษ์สุวรรณ
ผู้สร้าง:
สหมงคลฟิล์ม
โอปปาติก เกิดอมตะ (2007) Opapatika โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) เล่าถึงเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่างที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่น ๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อย ๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด
ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเชื่อของตนเอง ว่าจะสามารถเอาชนะความตายได้ด้วยการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียวที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกอีกตนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างลึกลับ และดูอันตรายเกินไปที่ศดกจะวางใจให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ทางเดียวที่ศดกจะสามารถเป็นอมตะได้ก็คือ ต้องกำจัดจิรัสย์ออกไป
...ศดกจึงวางแผนการโดยให้ลูกน้องสุดจงรักภักดีนาม ธุวชิต (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ออกตามหา เตชิต (ลีโอ พุฒ) นักสืบเอกชนคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นมีพลังพิเศษของโอปปาติกแอบซ่อน อยู่
...ศดกได้ล่อหลอกให้เตชิตกลายเป็นโอปปาติกด้วยการฆ่าตัวตาย และได้ว่าจ้างให้เตชิตใช้พลังพิเศษของเขาออกตามหาโอปปาติกตนอื่น ๆ เพื่อร่วมมือกันหาทางกำจัดตัวอันตรายอย่างจิรัสย์ที่ตอนนี้กำลังตามล่าหญิง สาวลึกลับนางหนึ่งอยู่
...เตชิตตกลงช่วยเหลือศดก และได้รู้จักกับ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับคนที่จิรัสย์ต้องการจะฆ่า และหลงรักปราณทันทีที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก ซึ่งตัวปราณนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โอปปาติกตนอื่น ๆ มารวมกันได้
...ไปศล (ชาคริต แย้มนาม) โอปปาติกนักฆ่าที่ไม่เคยผูกพันยึดติดกับใคร นอกจากอดีตของตัวเอง และด้วยความรู้สึกผูกพันบางอย่างของไปศลที่มีต่อปราณ ทำให้เขาแอบตามดูแลปราณอยู่ห่าง ๆ
อรุษ (เร แม็คโดแนลด์) กับ รามิล (อธิป นานา) สองโอปปาติกเพื่อนแท้ชนิดตายแทนกันได้ เมื่อใดที่อยู่รวมกันจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าแยกกันจะอ่อนแอ เพราะต่างคนต่างก็มีพลังที่จะช่วยอุดจุดอ่อนของกันและกันได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เข้าถึงตัวได้ยาก เพราะไม่เคยไว้ใจใคร จนกระทั่งทั้งคู่ได้มาสานสัมพันธ์กับปราณ
...แม้ดูเหมือนว่า เหล่าโอปปาติกทั้งหมดจะถูกดึงดูดมารวมกันโดยมีปราณเป็นจุดเชื่อมโยง แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายไปเสียทั้งหมด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีแง่มุมที่ไม่ลงรอยกันอยู่ ประกอบกับเรื่องราวที่ดูคลุมเครือระหว่างศดกกับจิรัสย์ นั่นได้นำไปสู่การปะทะกันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และนำมาซึ่งความสูญเสีย พร้อม ๆ กับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของชีวิต
โอปปาติกะเป็นคนบาลี ในพุทธศาสตร์หมายถึงสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาแล้วโตเต็มที่ทันทีทันใด ไม่ต้องผ่านการวิวัฒนาการเหมือนสัตว์ทั่วไป เรียกรวมพวกเทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โดยมีอำนาจของกรรมเป็นตัวสนับสนุน ด้วยความน่าสนใจของคำๆนี้ ผู้กำกับนำมาตีความใหม่ จนกลายมาเป็นภาพยนตร์ และเป็นการพบกันครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ของ 8 ซุปเปอร์สตาร์ ระดับแถวหน้าของเมืองไทยสู่ปรากฎการณ์ความยิ่งใหญ่ของที่สุดแห่งภาพยนตร์ไทย แอ็คชั่นเหนือจินตนาการ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อมนุษย์หาญกล้าคิดท้าทายขอบเขตแห่งอำนาจของ "โอปปาติกะ" เหล่าสิ่งมีชีวิตผู้มีพลังอำนาจพิเศษเหนือกกว่ามนุษย์ทั่วไป ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นหลังประตูแห่งความตายถูกเปิดขึ้นไม่มีใครล่วงรู้ว่าจุด จบแห่งมหาสงครามการนองเลือดเพื่อล้างเผ่าพันธุ์พิเศษที่สืบทอดกันมานานนับ ศตวรรษจะจบลงที่ใด แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกนี้หรือโลกหน้านี่คืออุบัติแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่วินาทีแรกแห่งการล่า "โอปปาติกะ"ของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น!!!
0 comments:
Post a Comment