เรื่องย่อ : The Great Raid 121 ตะลุยนรกมฤตยู
ปี 1945 กองทหารอเมริกันหลายร้อยคน ที่ถูกกักขังในค่ายกักในคาบานาทวน (Cabanatuan) ประเทศฟิลิปปินส์ ถูกประทุษร้ายเกือบตาย เขาทั้งหลายเหล่านี้คือกองทหารกลุ่มเดียวที่รอดชีวิตในฟิลิปปินส์ จากทหารทั้งหมด 70,000 คน และในปี 1942 กองกำลังพันธมิตรก็ยอมยกธงขาวต่อกองทหารญี่ปุ่นที่บาทาน (Bataan) ตามมาด้วยการล่าถอยของนายพลแม็คอาร์เธอร์ ผู้มีชีวิตรอดต้องเดินลุยป่าอันร้อนปะทุ และเต็มไปด้วยยุงพาหะนำโรคที่รู้จักดี ในนาม Bataan Death March และถูกจับเข้าค่ายกักกันที่ไกลหูไกลตาและโหดเหี้ยม ในเวลาต่อมา 3 ปีต่อมา นายพลแม็ตอาร์เธอร์กลับมายังฟิลิปปินส์อีกครั้งตามคำสัญญา ขณะเดียวกัน กระทรวงการสงครามของญี่ปุ่น ก็ได้ออกนโยบาย “Kill All Policy” เพื่อทำลายค่ายกักกันทุกแห่ง รวมทั้งนักโทษที่อยู่ในนั้น ในค่ายแห่งหนึ่งชื่อปาลาวัน ทหารอเมริกัน 150 นายถูกบังคับให้เดินไปในสนามเพลาะ ถูกราดน้ำมันและจุดไฟเผา
ขณะเดียวกัน นักโทษในคาบานาทวนเชื่อว่าตนเองถูกเพื่อนและประเทศชาติลืม จึงตั้งตนเป็น “กองทหารไร้วิญญาณ” หนึ่งในนั้นคือ พันตรีกิ๊บสัน (โจเซฟ ไฟนส์) ที่ป่วยเป็นโรคมาลาเรีย แต่ยังคงแข็งใจไว้ ด้วยความหวังและความรักที่เขามีต่ออาสาสมัครสาวชื่อ มากาเร็ต (คอนนี่ นีลเซ่น) ผู้ช่วยเหลือขบวนการใต้ดินของฟิลิปปินส์
กลับมาที่กองบัญชาการกองทัพที่ 6 ใกล้ๆ ลูซอน พันโทเฮนรี่ เอ มุชชี่ (เบนจามิน แบรทท์) ผู้ห้าวหาญและทะเยอทะยาน แต่มีความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม และเป็นที่โจษจันด้านการสร้างความฮึกเหิมในหมู่ทหารใต้บังคับบัญชา พันโทเฮนรี่ได้รับมอบหมายให้หาทางเข้าไปในค่ายคาบานาทวน เพื่อปลดปล่อยนักโทษชาวอเมริกัน ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ภารกิจนี้ทางยุทธศาสตร์ถือว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะทหารต้องเผชิญกับการต้านทานของกองกำลังญี่ปุ่น ที่มีจำนวนมากกว่าหลายเท่า แต่มุชชี่ก็ไม่เคยหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
มุชชี่ได้เลือก ร้อยเอกโรเบิร์ท พรินซ์ (เจมส์ ฟรานโก) นายทหารหนุ่มเจ้าทฤษฎีและฉลาด เป็นผู้นำภารกิจจู่โจมนี้ โรเบิร์ทคือผู้คิดแผนการสุดกล้าหาญ โดยให้กองกำลังฝีมือดีระดับหัวกะทิ 121 นาย ร่วมด้วยทหารพรานอีกจำนวนหนึ่ง บุกเข้าไปในเขตแดนศัตรูเป็นเส้นทาง 30 ไมล์ และทำการจู่โจมค่ายกักกันอย่างสายฟ้าแลบ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ภารกิจครั้งนี้ลุล่วง กองกำลังสหรัฐฯ ได้ผนึกกำลังกับทหารฟิลิปปินส์ ซึ่งนำโดย ร้อยตรีฮวน ปาโจตา (ซีซาร์ มอนทาโน) ผู้ชำนาญพื้นที่ ฮวนนี่เองที่จะช่วยนำทางกองกำลังผู้กล้าหาญนี้ ให้ไปถึงจุดหมาย เมื่อเวลาของนักโทษเริ่มเหลือน้อยลง และทีมกู้ชีวิตเริ่มเร่งมือปฏบิบัติการ สิ่งที่เห็นได้ตามมา คือ ความกล้าหาญ, การสละชีวิต และจิตวิญญาณของมนุษย์ ที่สามารถเอาชนะความลำบากยากแค้นที่น่ากลัวได้…
ภาพยนตร์อิงเรื่องจริงโดย จอห์น ดาห์ล ที่เล่าภารกิจกู้ชีวิตสุดทรหด ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา นั่นคือ “การยกพลบุกคาบานาทวน” วีรกรรมอันกล้าหาญนี้ คือการปลดปล่อยเชลยศึกอเมริกันกว่า 500 คน จากค่ายกักกันของญี่ปุ่นในฟิลิปปินส์ ท่ามกลางอันตรายนับไม่ถ้วน นี่คือการพรรณนาอันน่าตรึงใจ ถึงภาวะฟื้นตัวจากความเจ็บปวดของมนุษย์ สิ่งที่หนังตีแผ่บนจอ คือความกล้าหาญ และ ความเป็นวีรบุรุษ ที่ทำให้กองกำลังทหารเล็กๆ แต่เข้มแข็งกองหนึ่ง ฝ่าฟันอุปสรรคโหดหินนานัปการ เพื่อช่วยชีวิตพี่น้องร่วมชาติ ที่ถูกจับเป็นเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ครั้งหนึ่ง เรื่องราวนี้เป็นที่รับรู้ทั้วสหรัฐอเมริกา และครั้งนี้เรื่องราวที่ถูกลืมไปนานของ The Great Raid ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ด้วยความพิถีพิถันด้านความสมจริง และอิงข้อมูลจากบุคคลหลายฝ่าย ทั้งผู้บัญชาการหน่วยทหารอเมริกัน, ทหารฟิลิปปินส์, อาสาสมัครหญิง หรือแม้กระทั่งตัวเชลยศึกเอง ต่างก็มีบทบาท ในการทำให้ช่วงเวลาแห่งความยากแค้นแสนสาหัส และสุดอันตรายนี้ กลายเป็นช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจ
Clip จาก Mthai
0 comments:
Post a Comment